ระยะเวลาโครงการ
ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568
จำนวนสิทธิโดยประมาณ 20 ล้านสิทธิหรือจนกว่าจะครบวงเงินสิทธิในวงเงินไม่เกิน 44,000 ล้านบาท
หรือถึงปิดลงทะเบียนวันสุดท้ายในวันที่ 26 ตุลาคม 2568 แล้วแต่เกณฑ์ใดจะถึงก่อน
การสแกนจ่ายเงินผ่านโครงการ ต้องมีการซื้อสินค้า/บริการจริงตรงตามมูลค่าที่สแกนจ่าย
ไม่อนุญาตให้ผู้ประกอบการถอนเงินสด หรือรับแลกสินค้า/บริการคืนเป็นเงินสดไม่ว่ากรณีใด

คำถามที่พบบ่อย

ศูนย์ช่วยเหลือผู้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส

วิธีการลงทะเบียนประชาชน

เป็นโครงการตามนโยบายของรัฐบาล โดยภาครัฐจะร่วมจ่ายค่าสินค้าและบริการบางประเภทให้แก่ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อลดรายจ่ายให้ประชาชนมีกำลังจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น และสร้างรายได้แก่ร้านค้ารายย่อย นำไปสู่การกระตุ้นและพื้นฟูเศรษฐกิจไทย

1.เป็นผู้มีสัญชาติไทย
2.มีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
3.มีบัตรประจำตัวประชาชน
4.ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามฐานข้อมูลของกระทรวงการคลัง ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2568
5.ไม่เป็นผู้ที่ถูก สศค. ระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในโครงการของรัฐ ได้แก่
(1) โครงการคนละครึ่ง (2) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 (3) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 (4) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 และ (5) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5

ภาครัฐจ่าย 50% (ไม่เกิน 200 บาท/คน/วัน) โดยกำหนดวงเงินสิทธิ ดังนี้
- ประชาชนผู้ยื่นแบบแสดงรายการภาษี*: 2,400 บาท/คน
- ประชาชนผู้ไม่ยื่นแบบภาษี: 2,000 บาท/คน
ตลอดระยะเวลาใช้จ่ายในโครงการ ตั้งแต่ 29 ต.ค. 68 - 31 ธ.ค. 68
หมายเหตุ: * ประชาชนผู้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้มีเงินได้กรณีทั่วไป (ภ.ง.ด. 90) แบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้มีเงินได้จากการจ้างแรงงานตามมาตรา 40 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ประเภทเดียว (ภ.ง.ด. 91) หรือแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ได้รับสิทธิลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 95) ของปีภาษี 2567 ตามฐานข้อมูลของกรมสรรพากร ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568

- ประชาชนที่เป็นไปตามคุณสมบัติที่กำหนด โดยประชาชนที่เคยรับสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 (ปี 2565) ต้องกดปุ่มยืนยันสิทธิ ผ่านช่องทางแอปฯ เป๋าตัง
- ประชาชนที่ไม่เคยรับสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 (ปี 2565) ต้องลงทะเบียนและกดยืนยันสิทธิผ่านช่องทางแอปฯ เป๋าตัง
(หมายเหตุ การรับสิทธิโครงการคนละครึ่ง พลัส เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด)

ตั้งแต่วันที่ 20 - 26 ต.ค. 68 (จนกว่าสิทธิจะครบ)

ลงทะเบียนผ่านแอปฯ เป๋าตัง กดผ่านแบนเนอร์ของโครงการคนละครึ่ง พลัส เท่านั้น
ตั้งแต่วันที่ 20 - 26 ต.ค. 68 (จนกว่าจะครบจำนวนสิทธิ หรือครบวงเงินงบประมาณของโครงการ) เวลา 06.00 - 22.00 น.ของทุกวัน

ตั้งแต่เวลา 06.00 - 22.00 น.ของทุกวัน ผ่านแอปฯ เป๋าตัง

กรณีประชาชนที่ไม่เคยได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 (ปี 2565) ต้องกดปุ่มยืนยันการรับสิทธิผ่านแอปฯ เป๋าตัง โดยจะมีการแจ้งผลการลงทะเบียนผ่านแจ้งเตือนบนแอปฯ เป๋าตัง ประมาณ 3 วัน หลังจากลงทะเบียนรับสิทธิ

ประชาชนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะไม่สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้

> ประชาชนที่เคยใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 (ปี 2565) ลงทะเบียนผ่านแอปฯ เป๋าตัง จะมีแจ้งเตือนบนแอปฯ เป๋าตัง ทันที
> ประชาชนที่ไม่เคยใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 (ปี 2565) ลงทะเบียนผ่านแอปฯ เป๋าตัง จะได้รับ SMS และแจ้งเตือนบนแอปฯ เป๋าตัง ภายใน 3 วัน

ประชาชนต้องใช้จ่ายค่าสินค้า บริการ (ตามเงื่อนไขของโครงการ) ผ่านกระเป๋าเงิน G Wallet บนแอปฯ เป๋าตัง กับร้านค้าถุงเงินที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส

ประชาชนต้องสมัครแอปฯ เป๋าตัง และผูกบริการ G Wallet ให้สำเร็จ

ประชาชนต้องใช้จ่าย (ใช้สิทธิ) ครั้งแรกภายในวันที่ 11 พ.ย. 68 เวลา 23.00 น. จึงจะสามารถใช้สิทธิได้ตลอดระยะเวลาโครงการ หากไม่ใช้สิทธิภายในวันเวลาดังกล่าวจะถือว่าไม่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการและถูกตัดสิทธิจากโครงการ

ใช้จ่ายผ่านแอปฯ เป๋าตัง G Wallet ในโครงการคนละครึ่ง พลัส ได้ตั้งแต่ 29 ต.ค. 68 - 31 ธ.ค. 68 โดยสามารถใช้จ่ายกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการได้ระหว่างเวลา 06.00 - 23.00 น. ส่วนกรณีใช้จ่ายซื้ออาหาร/เครื่องดื่มผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ ที่เข้าร่วมโครงการ จะสามารถเริ่มใช้จ่ายได้วันที่ 7 พ.ย. 68 ระหว่างเวลา 06.00 - 21.00 น.

วิธีใช้งานเป๋าตัง

สมาร์ทโฟนที่มีระบบปฏิบัติการ Android Version 10.0 ขึ้นไป และระบบ iOS Version 15.0 ขึ้นไป

สามารถรับสิทธิโครงการคนละครึ่ง พลัส ได้โดยประชาชนต้องลงทะเบียนและยืนยันตัวตนสำหรับบริการ G Wallet บนแอปฯ เป๋าตัง ใหม่อีกครั้ง

สามารถลงทะเบียนเข้าใช้งานแอปฯ เป๋าตังได้ตามปกติ โดยต้องสมัครบริการ G Wallet ให้เรียบร้อย และกดยืนยันสิทธิการเข้าร่วมโครงการผ่านแอปฯ เป๋าตัง

กรณีเปลี่ยนชื่อ หรือนามสกุล ชื่อที่แสดงบน G Wallet จะแสดงเป็นข้อมูลใหม่ แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบกับการใช้สิทธิโครงการภาครัฐแต่อย่างใด เพราะสิทธิดังกล่าวยึดจากหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก

กรณีแสกนใบหน้าไม่สำเร็จสามารถดำเนินการติดต่อได้ช่องทางต่อไปนี้
- ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา พร้อมบัตรประชาชนตัวจริง
- ตู้ ATM ธนาคารกรุงไทยที่สามารถยืนยันตนตัวตนได้ พร้อมบัตรประชาชนตัวจริง

ปัจจุบันช่องทางการยืนยันตัวตน G Wallet บนแอปฯ เป๋าตังมี 1 ช่องทาง คือ การยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้า

วิธีลงทะเบียน G Wallet บนแอปฯ เป๋าตัง มีขั้นตอน ดังนี้
- ดาวน์โหลดติดตั้งแอปฯ เป๋าตังสำเร็จ
- เลือก G Wallet เลือก "สมัครใช้บริการ"
- กด ยินยอม การจัดการข้อมูลยืนยันตัวตน
- ถ่ายบัตรประชาชน และกรอกข้อมูลตามขั้นตอน
- เลือกวิธีการยืนยันตัวตน "สแกนใบหน้า"
- สแกนใบหน้า ตรวจสอบและยืนยันข้อมูล
- เข้าสู่หน้าหลัก เริ่มการใช้งาน

ขั้นตอนการเติมเงินเข้า G Wallet มีขั้นตอน ดังนี้
- เข้าไปที่หน้าแอปฯ เป๋าตัง
- กดปุ่ม "เติมเงินเข้า G Wallet"
ทั้งนี้ ช่องทางการเติมเงินเข้า G Wallet สามารถทำได้ 3 ช่องทางด้วยกัน
1. Mobile Banking ของธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารทหารไทยธนชาต ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน และธนาคารยูโอบี โดยระบุ G Wallet ID 15 หลัก และจำนวนเงิน
2. บัญชีธนาคารกรุงไทยที่ผูกอยู่บนแอปฯ เป๋าตัง โดยต้องมีบัญชีกรุงไทย และผูกบนแอปฯ เป๋าตัง
3. QR PromptPay โดยสแกน QR ด้วย Mobile Banking ทุกธนาคาร
4. ตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารทหารไทยธนชาต โดยเลือกเมนูเติมเงินพร้อมเพย์ ระบุ G Wallet ID 15 หลัก และจํานวนเงิน
FPOMOFKrungthai
Copyright © 2025
ติดต่อสอบถาม